การจากลาเป็นสัจธรรมอย่างหนึ่งของโลกใบนี้ สำหรับคนเลี้ยงสุนัขเองถึงแม้เราจะรู้ดีว่าสักวันหนึ่งสุนัขที่เรารักต้องจากไป แต่อดที่จะเสียใจไม่ได้ เพราะด้วยความรักความผูกพันที่อยู่ด้วยกันมานาน เมื่อไม่สามารถหลีกเลี่ยงเรื่องสุนัขตายได้ สิ่งที่เจ้าของต้องทำก็คือการจัดการร่างของสุนัขซึ่งในปัจจุบันก็สามารถทำได้หลายวิธี แต่เชื่อว่าเมื่อเกิดสถานการณ์ขึ้นจริงอาจจะทำอะไรไม่ถูก ทำให้ลังเลว่าจะจัดการยังไงดี เพื่อเป็นการทำสิ่งสุดท้ายให้กับสัตว์เลี้ยงที่เรารักได้ไปเกิดในที่ที่ดีเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้การจากลานั้นไม่เป็นทุกข์มากเกินไป ในบทความนี้มีวิธีการเตรียมพร้อมสำหรับการจากไปของสุนัข การจัดการกับร่างสุนัขตาย การให้กำลังใจคนครอบครัวเพื่อให้เป็นการจดจำที่ดีตลอดไป
สุนัขตายทำอย่างไรดี
เมื่อสุนัขตายหรือสัตว์เลี้ยงเสียชีวิตลงแล้ว เราก็มักจะฝังกันเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับสุนัขบางตัวก็มีขนาดใหญ่เกินกว่าที่มนุษย์ธรรมดาๆ อย่างเราจะขุดหลุมฝังไหว เพราะหากฝังได้ไม่มิดก็อาจเกิดกลิ่นเน่าเหม็นหรือกลายเป็นที่สนุกของการขุดคุ้ยของสัตว์ตัวอื่นได้ วิธีที่ควรทำเมื่อสุนัขเสียชีวิตก็คือการเผา เพราะเราจะได้นำกระดูกของสุนัขไปลอยอังคาร แต่บางคนก็ไ่อยากเผาสุนัขจึงได้มีผู้ให้บริการจัดงานศพสุนัขออกมาเป็นตัวเลือกอีกทางหนึ่ง โดยผู้ให้บริการจัดงานศพสุนัขจะทำการประกอบพิธีการฌาปนกิจสุนัขให้โดยการเผาสุนัข แต่หากเป็นเจ้าที่ดีหน่อยก็จะใช้เตาเผาสุนัขแบบปลอดสารพิษเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม จากนั้นก็จะทำการเก็บกระดูก และลอยอังคารต่อไป
- การจัดการร่างสุสุนัขตาย เป็นสิ่งที่ผู้เลี้ยงอย่างเราต้องคิดเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าบ้าง เพื่อที่เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ เราจะได้สามารถจัดการกับร่างสุนัขตายได้อย่างเหมาะสม
- ร่างของสุนัขตายแล้วสามารถนำมาทำประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้โดยการมอบร่างให้กับโรงพยาบาลสัตว์เพื่อนำไปเป็นอาจารย์ใหญ่สุนัขให้นักศึกษาสัตวแพทย์ได้ทำการศึกษา
- ในต่างประเทศนิยมการฝังสุนัขตาย และการนำสุนัขตายมาฝังไว้ใต้ต้นไม้ตัวแทน เพื่อให้ร่างเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้ วิธีการนี้จะทำให้ผู้เลี้ยงรู้สึกว่าสุนัขยังอยู่ใกล้ๆ อยู่เสมอ
บริการจัดงานศพสุนัขตาย
ขั้นตอนการจัดงานเริ่มตั้งแต่การไปรับศพสุนัขตาย หากสุนัขตายที่บ้านท่านก็สามารถโทรติดต่อให้ทางผู้ให้บริการจัดงานศพสุนัขมารับศพสุนัขไปทำพิธีได้ และการจัดงานศพสุนัขก็จะทำขึ้นอย่างสมเกียรติสมความต้องการตามเจตนารมณ์ของท่าน โดยจะมีโรงเย็นและพุ่มดอกไม้หน้าศพจัดให้อย่างสวยงาม หรือหากท่านไม่สะดวกเดินทางไปจัดงานที่วัดก็สามารถติดต่อผู้ให้บริการจัดงานศพมาจัดงานที่บ้านของท่านและนิมนต์พระมาสวดฌาปนกิจได้ จากนั้นก็ฝากทางผู้ให้บริการจัดงานศพนำศพไปเผาที่วัดและเก็บกระดูกไปลอยอังคาร แต่หากท่านสะดวกท่านก็สามารถเดินทางไปร่วมพิธีด้วยได้ และสำหรับท่านที่ต้องการเก็บกระดูกของสัตว์เลี้ยงเอาไว้ ก็สามารถสั่งทำเป็นกระถางปลูกต้นไม้ โดยผู้ให้บริการจัดงานศพจะบรรจุกระดูกลงในกระถางพร้อมปลูกต้นไม้ให้
การเผาร่างสุนัขตายพร้อมประกอบพิธีจึงถือเป็นทางเลือกที่สะดวกอีกทางเลือกหนึ่ง ที่จะช่วยส่งสุนัขไปให้ได้ไปเกิดในที่ที่ดีและไม่ส่งกลิ่นเน่าเหม็นเหมือนการฝัง ตามความเชื่อโบราณเชื่อว่า หากชาตินี้ได้เกิดมาเป็นสุนัข ชาติหน้าก็จะได้เกิดมาเป็นคน การจัดงานศพโดยการเผาสุนัขจึงถือเป็นอีกหนึ่งแรงบุญที่จะช่วยให้สุนัขได้ร่วมอนุโมทนาบุญและได้ไปเกิดในที่ที่ดีในชาติต่อไป
วิธีจัดการร่างสุนัขตาย
- จัดการร่างสุนัขตายด้วยการฝัง
เป็นวิธีที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี การจัดการร่างสุนัขตายด้วยการฝังโดยเฉพาะสุนัขตัวใหญ่ต้องใช้พื้นที่พอสมควรในการขุดดินให้ลึก 4-6 ฟุต หลังจากนำร่างของสุนัขลงไปในหลุมที่ขุดไว้ ให้นำปูนขาวโรย และโกยดินฝังกลบ ให้จอบอัดดินบริเวณนั้นให้แน่น นำปูนขาวโรยปากหลุมอีกครั้ง หลังจากนั้นอีกสัก 1 สัปดาห์ ให้นำน้ำจุลินทรีย์ที่ซื้อได้ตามร้านขายปุ๋ยทั่วไปผสม1ส่วนต่อน้ำ 3 ส่วนราดไปบนหลุมจะช่วยเรื่องดับกลิ่น ย่อยสลาย
- จัดการร่างสุนัขตายด้วยการฌาปณกิจ
เป็นอีกวิธีที่นิยมมากในปัจจุบันโดยเฉพาะเจ้าของที่มีที่อยู่ที่ไม่ได้มีพื้นที่มากนัก อย่างบ้านทาวน์เฮ้าท์ หรือคอนโด การฌาปนกิจสุนัขเป็นทางเลือกที่ดีมากๆ นอกจากนี้ในด้านความรู้สึกการจัดการร่างสุนัขตายด้วยการฌาปนกิจยังให้ความรู้สึกเหมือนสุนัขเป็นคน เพราะวัดที่ให้บริการสำหรับฌาปนกิจสุนัขนั้นจะมีเตาเผาสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ มีพระสงฆ์ทำพิธีศพให้ เจ้าของมีโอกาสได้จัดงานศพให้สุนัข และเมื่อเผาแล้วก็สามารถนำเถ้ากระดูกสุนัขกลับไปไว้ที่บ้านได้ด้วย นอกจากข้อดีในด้านความสะดวกในการจัดการแล้ว การเผาหรือฌาปนกิจสุนัขสามารถช่วยแก้ปัญหาสังคมได้ส่วนหนึ่ง ดีกว่านำไปทิ้งขยะหรือทิ้งลงน้ำ เพราะสัตว์เลี้ยงเวลาที่ตายแล้วก็ถือว่าเป็นขยะติดเชื้อด้วย หากนำไปทิ้งจะเป็นการสร้างปัญหามลพิษเพิ่มด้วย
- จัดการร่างสุนัขตายด้วยการมอบร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่
คนสามารถมอบร่างสุนัขตายให้เป็นอาจารย์ใหญ่ได้ สุนัขก็สามารถทำได้เช่นกัน สำหรับในวงการสัตวแพทย์นิสิตนักศึกษาสัตวแพทย์ทุกคนจะต้องได้เรียนกับ “อาจารย์ใหญ่สุนัข” ซึ่งจะเป็นการเรียนทางกายวิภาคศาสตร์ เรียนรู้ทุกระบบต่างๆ จากร่างกายสุนัขอย่างเต็มที่ และเรียนอย่างคุ้มค่ามากที่สุดจากอาจารย์ใหญ่สุนัข นิสิตนักศึกษาสัตวแพทย์ที่ได้เรียนกับอาจารย์ใหญ่สุนัข ทุกคนจะให้ความเคารพ และให้เกียรติว่าเป็นอาจารย์ที่มาให้ความรู้ ไม่แตกต่างไปจากนิสิตนักศึกษาแพทย์ที่เรียนกับอาจารย์ใหญ่ที่เป็นคน ถึงแม้ว่าหลังเรียนเสร็จแล้วจะส่งซากสุนัขไปเผาตามระเบียบการปฏิบัติของโรงพยาบาลสัตว์ทั่วไป แต่นิสิตสัตวแพทย์ทุกคนต่างยกให้สุนัขเป็นอาจารย์ และมักจะนำพวงมาลัยมาไหว้โครงกระดูกสุนัขอยู่เสมอ
- จัดการร่างสุนัขตายด้วยการสต๊าฟเก็บไว้
เจ้าของอาจจะรู้สึกว่าไม่อยากให้ร่างสุนัขตายสลายไป ก็อาจจะเลือกเก็บร่างสุนัขเอาไว้ในรูปแบบของการสต๊าฟให้ร่างสุนัขคงสภาพไว้ตลอดไป ซึ่งในปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการสต๊าฟร่างสัตว์เลี้ยงอยู่หลายรายเหมือนกัน แต่สำหรับบางคนที่รู้สึกว่าขั้นตอนในการสต๊าฟอาจจะวุ่นวาย และไม่อยากให้ร่างของสุนัขถูกผ่า ก็อาจจะใช้วิธีฝังหรือเผา แล้วปั้นรูปเหมือน หรือทำตุ๊กตาเหมือนสุนัขขึ้นมาแทน
- จัดการร่างสุนัขตายด้วยการฝังไว้ใต้ต้นไม้ตัวแทน
เป็นอีกหนึ่งวิธีในการฝัง โดยเมื่อฝังสุนัขเรียบร้อบแล้วเจ้าของจะนำต้นไม้ หรือดอกไม้มาปลูกลงดินบริเวณหลุมศพ เมื่อร่างย่อยสลายไปก็จะกลายเป็นปุ๋ยหล่อเลี้ยงต้นไม้ ต้นไม้ต้นนั้นก็จะเปรียบเหมือนเป็นตัวแทนของสุนัข ทำให้เจ้าของอย่างเรารู้สึกเหมือนกับว่าสุนัขที่เรารักยังมีชีวิตอยู่กับเราเสมอ แม้รูปร่างลักษณะของเขาจะเปลี่ยนไปก็ตาม ในต่างประเทศมักนิยมใช้วิธีนี้ในการจัดการร่างสุนัขตาย
วิธีทำใจเมื่อสุนัขตาย
เป็นเรื่องยากที่จะทำใจเมื่อสุนัขตาย ยิ่งถ้าหากรักและผูกพันมากก็ยิ่งทำใจยอมรับได้ยาก บางคนถึงขนาดเศร้าหมองอยู่เป็นเดือนๆ ก็มี ฉะนั้นเลยรวบรวมวิธีรับมือกับการสูญเสียสัตว์เลี้ยงมาฝาก เผื่อจะช่วยให้ทุกคนทำใจได้ดีขึ้น อีกทั้งยังมีเคล็ดลับช่วยผู้สูงอายุ เด็ก และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นให้มูฟออนอีกด้วย
- ยอมรับความรู้สึกตัวเอง
สิ่งแรกที่จะช่วยรับมือกับการสูญเสียสุนัขตายคือ การยอมรับความรู้สึกตัวเอง หลีกเลี่ยงการเก็บความรู้สึกไว้ เพราะจะยิ่งทำให้ระยะเวลาทำใจยืดเยื้อออกไปอีก ซึ่งจริงๆ แล้วการปล่อยให้ตัวเองรู้สึกเสียใจ ร้องไห้ หรือระบายความรู้สึกออกไปบ้าง จะทำใจได้ง่ายกว่า แต่จะใช้เวลามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของแต่ละคน ที่มีช่วงเวลาที่แตกต่างกันไป ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ทั้งนี้ความรู้สึกเศร้าอาจจะวนกลับมาอีกครั้งหรือเป็นช่วงๆ ได้ เช่น เวลาที่มีคนพูดถึง เห็นสัตว์เลี้ยงตัวอื่นตาย หรือวันครบรอบหรือวันพิเศษ
- พูดคุยกับคนที่เข้าใจ
การพูดคุยกับคนที่เข้าใจถือเป็นวิธีที่ดีไม่น้อย โดยขั้นแรกให้ลองมองหาเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ตัว แล้วเล่าเรื่องราวที่ต้องเผชิญให้เขาฟังก่อน แต่ถ้าหากคนรอบตัวไม่เข้าใจ ก็ให้ลองมองหาคนอื่นที่เคยมีประสบการณ์เหมือนกัน เช่น กลุ่มสัตว์เลี้ยง เว็บบอร์ด หรือแม้กระทั่งสายด่วนปรึกษาปัญหาต่างๆ แทน เพราะจะได้ช่วยระบายความรู้สึก พร้อมทั้งได้รับกำลังใจและคำแนะนำดีๆ มาพร้อมๆ กัน
นอกเหนือจากนี้ หากใครรู้ตัวว่าความเศร้าติดค้างอยู่ในใจนานจนส่งผลกระทบต่อหลายด้าน ควรตัดสินใจเข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยกันแก้ไข รักษา รับมือ และหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ได้อย่างถูกจุด
- จัดการกับความรู้สึกผิด
นอกจากอายุขัย โรคภัยไข้เจ็บ และอุบัติเหตุแล้ว บางครั้งการสูญเสียสัตว์เลี้ยงก็มาจากการการุณยฆาต จึงอาจจะทำให้เจ้าของหลายคนรู้สึกผิดต่อพวกเขาได้ ดังนั้นขอแนะนำให้พยายามทำใจยอมรับและจัดการกับความรู้สึกให้เร็วที่สุด อย่าคิดว่าเป็นการฆ่าหรือเอาชีวิต แต่ให้คิดว่าเป็นการช่วยให้สัตว์เลี้ยงของเราไม่ต้องทรมานหรือเจ็บปวดในช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตแทน
- เคลียร์ปัญหาคาใจ
หากใครมีปัญหาคาใจเกี่ยวกับสุนัขตาย ควรสอบถามกับสัตวแพทย์เพื่อให้ได้รับคำตอบชัดเจน อย่าทนเก็บหรือทิ้งไว้นานหลายปี เพราะการมูฟออนโดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ จะทำใจได้ง่ายและเร็วกว่าการมีความสับสนอยู่ในใจนั่นเอง
- ให้พิธีกรรมช่วยบำบัด
หลายคนรู้สึกสบายใจขึ้นเมื่อได้จัดงานศพหรือพิธีกรรมให้กับสุนัขตายจากไป เพราะเหมือนเป็นการส่งเขาไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม ได้กล่าวคำอำลาและขอบคุณ อีกทั้งงานเหล่านี้ยังเปิดโอกาสให้เจ้าของแสดงความเศร้าโศกเสียใจได้อย่างเต็มที่ ไม่ต้องปิดบัง ช่วยให้โล่งใจหรือเป็นการระบายได้พร้อมกัน ทั้งนี้อาจจะมีคนที่ไม่ค่อยเห็นด้วย ให้พยายามอย่าไปสนใจและทำสิ่งที่สมควรก็พอ
- สร้างความทรงจำ
การทำไอเทมที่ระลึกเพื่อสร้างความทรงจำเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เช่น ปลูกต้นไม้ ทำหลุมฝังศพ เก็บกระดูกไว้ในบ้าน ทำอัลบั้มรูปพิเศษ เขียนไดอารี่ความทรงจำ และเก็บรวบรวมข้าวของเครื่องใช้ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีและควรทำ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ความทรงจำในหัวจับต้องได้มากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการให้เกียรติสัตว์เลี้ยง เป็นการเก็บรวบรวมความสัมพันธ์ และเป็นการระบายความรู้สึกช่วยให้เปิดใจไปในตัว จนทำให้เรามูฟออนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
- ช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่น
การสมัครเป็นอาสาสมัคร เช่น พาสุนัขเดิน เล่นกับแมว ทำความสะอาดที่อยู่ หรือบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือสัตว์ตัวอื่น จะในนามตัวของคุณเองหรือสัตว์เลี้ยงของคุณก็ตาม สามารถช่วยให้คุณรู้สึกดีและมีความสุขได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยให้ทำใจรับมือได้ง่ายขึ้นด้วย
- ดูแลตัวเอง
เมื่อสุนัขตายคนส่วนใหญ่มักจะเศร้าและเครียด จนทำให้ร่างกายทรุด สุขภาพแย่ อารมณ์ไม่ดี และไม่มีพลังงาน ดังนั้นสิ่งสำคัญที่ควรทำที่สุดเพื่อช่วยให้กลับมามีแรงกาย แรงใจได้อีกครั้งก็คือ การหันมาดูแลตัวเองทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เช่น กินอาหารที่ดี นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ พบปะพูดคุยกับคนใกล้ตัว และทำกิจกรรมคลายเครียดที่ชื่นชอบ เป็นต้น
- มูฟออน
หลังจากเผชิญหน้ากับความเศร้าเสียใจมาสักระยะ ทำพิธีกรรมอย่างถูกต้อง และทำมุมที่ระลึกหรือของที่ระลึกให้กับสัตว์เลี้ยงเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายก็ต้องรู้จักยอมรับ เรียนรู้ และปล่อยวาง เพื่อปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ที่ไม่มีพวกเขาให้ได้นั่นเอง
- อย่ารีบร้อนรับสัตว์อื่นมาเลี้ยง
ไม่ว่าบ้านจะเงียบเหงาและว่างเปล่าสักแค่ไหน แต่ก่อนจะรับสัตว์ตัวใหม่มาเลี้ยงควรใช้เวลาผ่านความเศร้าและความเสียใจให้เสร็จสิ้นก่อน เพื่อป้องกันความสับสนหรือปัญหาที่อาจจะตามมา เช่น การไม่พอใจสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ หรือความรู้สึกผิดกับสัตว์ตัวเก่า
ทั้งนี้เมื่อเปิดใจพร้อมจะรับเลี้ยงสัตว์อีกครั้งแล้ว ขอแนะนำให้เลือกที่สายพันธุ์หรือลักษณะแตกต่างจากเดิม เพื่อช่วยป้องกันการเปรียบเทียบและให้ความยุติธรรมกับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่
วิธีรับมือสำหรับผู้สูงอายุ
สำหรับผู้สูงอายุแล้ว การรับมือกับการที่สุนัขตายความสูญเสียเหล่านี้อาจจะใช้เวลามากกว่ากว่าคนทั่วไป โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่อยู่ตามลำพัง ที่อาจจะรู้สึกว่างเปล่า เหงา และไร้จุดหมายได้ง่าย อีกทั้งการตายของสัตว์เลี้ยงอาจจะไปกระทบจิตใจเกี่ยวกับการตายของคนใกล้ตัวหรือของตัวเองในอนาคต ฉะนั้นหากคุณเป็นลูกหลาน ควรรีบเข้ามาดูแลและพูดคุยอย่างใกล้ชิด หรือหากเป็นตัวคุณเอง ควรติดต่อพูดคุยกับคนใกล้ชิด เช่น เพื่อนฝูงหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
นอกเหนือจากนี้ ผู้สูงอายุทั้งหลายยังควรต้องดูแลตัวเอง หมั่นออกไปเดินเล่นพบปะผู้คนเพื่อช่วยขจัดอารมณ์เศร้า ออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมเพื่อเพิ่มพลังงาน และลองมองหาความสุขใหม่ในชีวิต ไม่เช่นนั้นก็อาจจะพิจารณาถึงการรับสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาดูแล ทว่าต้องทบทวนให้รอบคอบเป็นพิเศษ เนื่องจากมีความเป็นไปได้ที่สัตว์เลี้ยงจะมีอายุยืนยาวกว่าผู้เลี้ยงนั่นเอง
วิธีรับมือสำหรับเด็ก
การที่สุนัขตายหรือการจากไปของสัตว์เลี้ยง อาจจะเป็นประสบการณ์เศร้าๆ หรือเกี่ยวกับความตายครั้งแรกของเด็กๆ ผู้ปกครองจึงต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก ควรสอนให้เขาเรียนรู้และยอมรับ แม้ว่าเหตุการณ์นี้อาจกระทบกระเทือนจิตใจพวกเขา จนทำให้เด็กบางคนโกรธพ่อแม่หรือหมอ บางคนกลัวการเลี้ยงสัตว์ตัวใหม่ บางคนกลัวการลาจากของคนรัก แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกความจริงกับพวกเขาไป เพราะการปกปิด เช่น บอกว่าสัตว์เลี้ยงหนีไปหรือออกไปข้างนอก อาจจะทำให้สถานการณ์แย่กว่าเดิม ทำให้พวกเขาคาดหวัง เฝ้ารอ และผิดหวัง อีกทั้งเวลาที่ได้รู้ความจริงจะช้ำใจมากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากนี้ สิ่งที่พ่อแม่ควรทำมากที่สุด คือ การทำตัวเป็นตัวอย่าง และการปล่อยให้เด็กๆ แสดงความรู้สึกในแบบของเขาเอง พูดหรือร้องไห้ได้ตามที่คิด ไม่ต้องอายหรือกังวลอะไร อาจจะมีกิจกรรมให้ทำ เช่น วาดรูปหรือปลูกต้นไม้ให้สัตว์เลี้ยงที่รัก รวมทั้งให้เด็กเข้าร่วมในพิธีกรรมหรืองานศพได้ และไม่จำเป็นต้องรีบหาสัตว์เลี้ยงตัวใหม่มาแทนที่ด้วย
วิธีรับมือกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ในบ้าน
สัตว์เลี้ยงตัวอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ก็สามารถเศร้าเสียใจกับการจากไปของเพื่อนได้เหมือนกัน หรือไม่เช่นนั้นเมื่อเขาเห็นอาการผิดปกติของเจ้าของ ก็อาจจะทำให้เกิดความไม่สบายใจจนซึมลงได้ ฉะนั้นเจ้าของจึงควรทำตัวให้เหมือนเดิม รักษากิจวัตรประจำวันให้ปกติ และทางที่ดีอาจจะเพิ่มเวลาพาไปออกกำลังกาย หรือเพิ่มเวลาเล่นกับสัตว์เลี้ยงตัวที่ยังอยู่ เพื่อช่วยให้ทั้งคนและสัตว์แฮปปี้ขึ้น อย่างไรก็ตาม หากพยายามทำทุกอย่างแล้ว แต่สัตว์เลี้ยงยังดูเศร้าผิดปกติอยู่ ขอแนะนำให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน ไม่เช่นนั้นอาจจะส่งผลกระทบต่อไปในอนาคตได้
บทสรุป
ถึงแม้ว่าการทำใจยอมรับจะเป็นเรื่องยาก แต่เราก็ต้องมูฟออนและปรับตัวให้เร็วที่สุดสิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่มีอายุขัยที่ต้องหมดไป ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ก็พยายามทำดีต่อกันอยู่เสมอ ถึงแม้ว่าสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ จะพูดไม่ได้เหมือนคน แต่ว่ามีจิตใจและสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของคนเลี้ยงได้มอบให้ หากวันหนึ่งที่ต้องเผชิญกับเหตุการณ์สุนัขตายขอให้เข้มแข็งและขอเป็นกำลังใจให้ผ่านความเสียใจไปได้โดยเร็ว
เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง
- พาสุนัขเที่ยว ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง
- สุนัขไอ มีอาการและการรักษาอย่างไร
- ปัญหาก้อนขน ในทางเดินอาหารแมวมีวิธีป้องกันอย่างไร
- เสื้อแมว จำเป็นต้องใส่ไหม
- ฝึกสุนัขขับถ่าย มีวิธีการสอนอย่างไร
- อาบน้ำสุนัข เพื่อลดปัญหาสุนัขไม่ยอมอาบน้ำมีวิธีอย่างไรบ้าง
ที่มาของบทความ